เรือเร็วชนะเรือใหญ่
แล้วอะไรชนะเรือเร็ว?
.
.
ใช้เรือลำเล็กๆ ก็ยังดีกว่า ว่ายน้ำข้ามไป
ใช้เรือลำใหญ่
ก็ไปได้ไกลกว่าเรือลำเล็ก
แต่ทุกวันนี้
เรือเร็ว ชนะเรือใหญ่
แต่ถ้าจะให้ทันสมัย
วันนี้ต้องมี “ท่าเทียบเรือ”
.
ผมนั่งคุยกับลูกค้าในระหว่างช่วยกันวางแผนธุรกิจให้กับบริษัทของลูกค้ารายหนึ่ง
เพื่อเปรียบเทียบเปรียบเปรยให้เห็นถึงแนวโน้มการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน
ที่ความใหญ่โตอาจไม่ใช่ปัจจัยแห่งความสำเร็จเท่ากับความเร็วในการลงมือทำหรือความเร็วในการปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง
.
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วมาก
ทั้งในเรื่องเทคโนโลยี
ทั้งให้เรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภค
ในภาวะโรคระบาด
การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบแทบจะต้องคอยจับตาดูรายวันเลยทีเดียว
.
การมีทีมงานขนาดเล็กที่มีความคล่องตัว
ทีทักษะและทัศคติที่พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงนับว่ามีความสำคัญ โดยเฉพาะถ้าอ่านเกมส์ออก สามารถปรับตัวล่วงหน้า
โดยไม่ต้องรอจนถูกบังคับให้เปลี่ยน
อาจพลิกสถานการณ์ให้กลายเป็นความได้เปรียบในการแข่งขันได้ อย่างเช่น
ผู้ประกอบการหลายรายเตรียมพร้อมการขายช่องทางออนไลน์ก่อนที่จะเกิดโควิด
ก็จะมีความพร้อมมากกว่า
.
เมื่อเราคุยกันได้สักพักใหญ่
ก็มีคำถามเกิดขึ้นกลางวงว่า “ถ้าเรือเร็วชนะเรือใหญ่ แล้วอะไรชนะเรือเร็ว?”
ตามความเห็นของผม ถ้าจะให้ทันยุคสมัย “ยุคนี้ คุณต้องมีท่าเทียบเรือ” ซึ่งผมหมายถึง ธุรกิจที่เป็นแพลตฟอร์ม
ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนจำนวนมากเข้ามาใช้ประโยชน์ ทั้งผู้ซื้อสินค้า ผู้ขายสินค้า ผู้ขนส่ง
ผู้ที่ต้องการโฆษณาประชาสัมพันธ์
ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มก็สามารถสร้างรูปแบบรายได้ได้อย่างหลากหลายและมีแนวโน้มที่จะเป็นธุรกิจที่เติบโตเร็วกว่ารูปแบบอื่นๆ
.
ตัวอย่าง เช่น LINE
MAN Wongnai แพลตฟอร์มสัญชาติไทยที่เป็น e-commerce
platform for service พยายามที่จะทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น เป็น marketplace ที่ทีผู้เกี่ยวข้องหลัก
3 ด้านคือคนขับรถ
ร้านอาหาร คนสั่งอาหาร มาร่วมกันสร้างและใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม ซึ่งก็มีจำนวนมากและเติบโตทั้ง 3 ด้าน ถ้าเจ้าของแพลตฟอร์มสามารถสร้างการเติบโตให้แพลตฟอร์มได้
ก็ถือว่าสามารถช่วยเหลือผู้คนได้เป็นจำนวนมาก
ในขณะที่เจ้าของแพลตฟอร์มก็อาจได้ประโยชน์ร่วมกันจากรายได้รูปแบบอื่นได้อีก
เช่นสื่อโฆษณา ใช้ประโยชน์จากข้อมูลบนแพลตฟอร์มเพื่อนำเสนอสินค้าใหม่ เช่น
เงินกู้ระยะสั้น ประกันสำหรับคนขับรถ เป็นต้น
.
วัยชัย
ตันจารุพันธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น