127 Hours
ได้มีโอกาสดูภาพยนตร์
เรื่อง 127 Hours โดยไม่ได้ตั้งใจ
เพราะแค่ชื่อเรื่องก็ไม่ค่อยน่าสนใจ ไม่รู้สื่อถึงอะไร ถ้าจะเล่าเนื้อเรื่องก็ธรรมดามาก
คือ เป็นเรื่องของชายหนุ่มที่ชื่อ Arron ไปเที่ยวภูเขาโดยลำพัง
แล้วตกไปในซอกเขา เจอก้อนหินทับข้อมือติดอยู่ในนั้น 127 ชั่วโมง กว่าจะออกมาได้ ก็ประมาณนั้น
แต่ถ้าดูให้ดี หนังเรื่องนี้ก็ให้แง่มุมที่เป็นประโยชน์อยู่หลายประเด็นที่อยากมาเล่าต่อ
อย่างแรกก็คือ ความพยายามในการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะตะโกนร้องไปก็ไม่มีใครได้ยิน
คุณ Arron จึงต้องตั้งสติและบอกตัวเองว่า
“อย่าบ้าคลั่ง” แต่ต้องพยายามคิดวางแผนให้ตัวเองยังคงมีชีวิตรอดและแก้ปัญหาก้อนหินที่ทับมืออยู่ให้ได้
ใน Moment ที่ได้สติ มีแง่มุมความคิดที่น่าเอาไปใช้ คือเขามองว่า เจ้าก้อนหินก้อนนี้ มันอาจเป็นอุกาบาตจากนอกโลก ตกมาในโลกและรอเวลามาหลายพันปีแล้วเพื่อที่จะมาทับแขนของเขา และเขาก็เกิดมาเพื่อจะเจอกับสิ่งนี้ คิดได้แบบนี้ก็เกิดสติ และยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ยอมแพ้ คือพยายามหาทางแก้สถานการณ์ต่อไปอย่างมีสติมากขึ้น
อีกประเด็นหนึ่ง คือได้แง่มุม ความรู้สึกของคนใกล้ตาย ว่าจะรู้สึกอย่างไร โดยภาพยนตร์ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปกับเขา(ซึ่งกำลังจะตาย) ได้สะท้อนตัวเองว่า จะทำอะไรก็รีบทำ เพราะยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ(เดี๋ยวจะตายเสียก่อน) หรือเราจะคิดถึงใครบ้างก่อนตาย
หลังจากพยายามทำทุกวิถีทาง
ในที่สุดคุณ Arron ก็ใช้วิธี ตัดมือตัวเองให้ขาดเพื่อรักษาชีวิตไว้
และก็ออกมาจนได้ โดยได้รับการช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวแถวนั้นและหน่วยกู้ภัย
เป็นภาพยนต์อีกเรื่องหนึ่งที่สอนเราเรื่อง มรณานุสติ และ Problem Solving แบบดูเพลินๆแต่เข้าถึงอารมณ์ได้ดีทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น