วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Fail to Win

 

ความล้มเหลวที่น่าจดจำนั้น อาจดีกว่า ความสำเร็จแบบธรรมดาๆเสียอีก



หลายคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า คนที่ไม่เคยทำผิดพลาด อาจหมายถึงคนที่ไม่เคยลงมือทำอะไรซักอย่าง ในทางกลับกัน คนที่ประสบความสำเร็จระดับตำนาน อย่างเช่น วอลท์ ดิสนีย์ หรือแจ๊คหม่า มักจะเล่าเรื่องความล้มเหลวผิดพลาดให้เราฟังด้วยความภาคภูมิใจ ราวกับว่ามันเป็นขั้นตอนหรือองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้ 

บางทีความล้มเหลวที่น่าจดจำนั้น อาจดีกว่า ความสำเร็จแบบธรรมดาๆเสียอีก ความสำเร็จกับความล้มเหลว เป็นสิ่งคู่กัน เหมือนกับเหรียญ 2 ด้าน ถ้าอยากสำเร็จ ก็ต้องไม่รังเกียจที่จะเจอความล้มเหลวให้มากพอ ยิ่งถ้าต้องการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ก็ต้องตั้งเป้าหมายให้ท้าทาย ตั้งเป้าหมายให้ยากเกินกว่าจะเอื้อมถึง(แต่มีความเป็นไปได้) โดยไม่ต้องกังวลว่าจะล้มเหลวหรือไม่ ขอเพียงทำให้มั่นใจว่า เรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้เราได้พยายามอย่างสุดกำลังแล้ว

ความล้มเหลว อาจไม่ใช่เรื่องสนุก แต่ถ้ามองดูดีดี ก็อาจเป็น โอกาสอันงดงามที่จำแลงแปลงกายมาก็ได้ เพราะมันจะทำให้เราต้องทบทวนและปรับปรุงตัวเอง มันอาจจะผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้าได้เร็วกว่าตอนสำเร็จไปเรื่อยๆเสียอีก

สิ่งที่จะช่วยให้กล้าล้มเหลว คือแนวคิดแบบเด็กที่ สนใจใฝ่รู้ เด็กมักจะถามด้วยความไม่รู้ แต่พอโตขึ้น เรามักจะคิดว่า เรารู้แล้ว แล้วก็ไม่ถาม ไม่เรียนรู้ต่อ  ดังนั้น ควรท่องไว้เสมอว่า Stay Young and Stay Fool !

สำหรับองค์กร ถ้าต้องการส่งเสริมให้คนในองค์กร กล้าที่จะล้มเหลว เพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าในอนาคต  อาจสร้างบรรยากาศ โดยไม่ตำหนิต่อว่ากับ “ความล้มเหลวที่มาจากเป้าหมายที่ใหญ่และความพยายามอย่างชาญฉลาดแล้ว” ของพนักงาน ในทางตรงข้าม อาจยกย่องและให้เป็นแบบอย่างต่อผู้อื่นในองค์กรด้วย และเปลี่ยนเป็นการตำหนิต่อการ “ไม่ทำอะไรเลย” หรือ “ตั้งเป้าหมายแบบง่ายๆ(ที่สำเร็จตั้งแต่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไร)” แทน

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563

127 Hours

 127 Hours

ได้มีโอกาสดูภาพยนตร์ เรื่อง 127 Hours โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะแค่ชื่อเรื่องก็ไม่ค่อยน่าสนใจ ไม่รู้สื่อถึงอะไร ถ้าจะเล่าเนื้อเรื่องก็ธรรมดามาก คือ เป็นเรื่องของชายหนุ่มที่ชื่อ Arron ไปเที่ยวภูเขาโดยลำพัง แล้วตกไปในซอกเขา เจอก้อนหินทับข้อมือติดอยู่ในนั้น 127 ชั่วโมง กว่าจะออกมาได้ ก็ประมาณนั้น






แต่ถ้าดูให้ดี หนังเรื่องนี้ก็ให้แง่มุมที่เป็นประโยชน์อยู่หลายประเด็นที่อยากมาเล่าต่อ 

อย่างแรกก็คือ ความพยายามในการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะตะโกนร้องไปก็ไม่มีใครได้ยิน คุณ Arron จึงต้องตั้งสติและบอกตัวเองว่า “อย่าบ้าคลั่ง” แต่ต้องพยายามคิดวางแผนให้ตัวเองยังคงมีชีวิตรอดและแก้ปัญหาก้อนหินที่ทับมืออยู่ให้ได้

ใน Moment ที่ได้สติ มีแง่มุมความคิดที่น่าเอาไปใช้ คือเขามองว่า เจ้าก้อนหินก้อนนี้ มันอาจเป็นอุกาบาตจากนอกโลก ตกมาในโลกและรอเวลามาหลายพันปีแล้วเพื่อที่จะมาทับแขนของเขา และเขาก็เกิดมาเพื่อจะเจอกับสิ่งนี้  คิดได้แบบนี้ก็เกิดสติ และยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ยอมแพ้ คือพยายามหาทางแก้สถานการณ์ต่อไปอย่างมีสติมากขึ้น

อีกประเด็นหนึ่ง คือได้แง่มุม ความรู้สึกของคนใกล้ตาย ว่าจะรู้สึกอย่างไร โดยภาพยนตร์ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปกับเขา(ซึ่งกำลังจะตาย) ได้สะท้อนตัวเองว่า จะทำอะไรก็รีบทำ เพราะยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ(เดี๋ยวจะตายเสียก่อน) หรือเราจะคิดถึงใครบ้างก่อนตาย




หลังจากพยายามทำทุกวิถีทาง ในที่สุดคุณ Arron ก็ใช้วิธี ตัดมือตัวเองให้ขาดเพื่อรักษาชีวิตไว้ และก็ออกมาจนได้  โดยได้รับการช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวแถวนั้นและหน่วยกู้ภัย

เป็นภาพยนต์อีกเรื่องหนึ่งที่สอนเราเรื่อง มรณานุสติ และ Problem Solving แบบดูเพลินๆแต่เข้าถึงอารมณ์ได้ดีทีเดียว


วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Why Startup fail?

 

Why Startup fail?



จากการสำรวจของ  cbinsights.com สรุปได้ว่า สาเหตุใหญ่ๆ ของ startup ที่ ไม่สามารถไปต่อได้ตามที่ฝันไว้ มี Top3 คือ

        42%   ด้านตลาด คือทำสิ่งที่ตลาดไม่ต้องการ

        29%  ด้านการเงิน เช่น เงินหมุนเวียนไม่ทัน

        23%   ด้านคน ทีมงานไม่สามารถทำงานร่วมกันได้

ดังนั้น สำหรับ ผู้ที่กำลังวางแผน คิดจะทำธุรกิจ หรือทำธุรกิจอยู่แล้วก็ตาม ก็ควรให้ความสำคัญกับ เรื่องเหล่านี้ โดย

1.ตรวจสอบอยู่เสมอว่า เราได้เลือกตลาดที่มีขนาดใหญ่พอและได้ทำสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ โดยการลองไปเป็นลูกค้าจริงๆ  หมั่นถามและสังเกตพฤติกรรมและประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับจากสินค้าบริการของเรา ว่าเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

2.วิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน ไม่ลงทุนเกินกว่าเงินทุนที่หามาได้ และเมื่อลงมือทำจริงแล้ว ต้องติดตามข้อมูลกำไร-ขาดทุนทุกวัน ตรวจสอบข้อมูลทางการเงินที่สำคัญเป็นประจำและปรับปรุงให้เหมาะสม ได้แก่ ยอดขาย กำไร/ขาดทุน สภาพคล่อง ลูกหนี้ เจ้าหนี้ สต๊อก

3.ทีมงานต้องมีทักษะความสามารถ มีความมุ่งมั่น และต้องสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมโดยใช้ความสามารถที่แตกต่างของแต่ละคนมาเติมเต็มซึ่งกันและกันแบบประสานพลัง รวมทั้งผู้นำต้องมีทักษะในการดึงศักยภาพของทีมงานและสร้างบรรยากาศเพื่อความสำเร็จได้